นับ 1 ใหม่ กับ รถมือสอง ซื้อมาแล้ว ต้องดูแลอย่างไรบ้าง

หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่กำลังจะซื้อรถมือสองมาใช้ ไม่สนใจรถใหม่ หรือรถยนต์ไฟฟ้า ก็ลองอ่านบทความนี้ดู เพราะการซื้อรถเก่าหรือรถมือสองมาใช้สักคัน มันเท่ากับว่า เราต้องนับ 1 กันใหม่เลยทีเดียว เนื่องจากเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เจ้าของเดิมนั้นทำอะไรกับรถมาแล้วบ้าง ไม่ว่าจะเป็น “รถบ้าน” ที่ซื้อขายกันโดยตรงจากเจ้าของเดิม หรือจะเป็น “รถเต็นท์” ที่มีขายกันมากมาย เค้าก็มักจะบอกกับผู้ซื้อว่า ได้ทำโน่น นี่ นั่นมาแล้ว ไม่ต้องไปทำใหม่อีกให้เปลืองเงิน เปลืองเวลาเปล่า ๆ ซึ่งก็ต้องขอบอกกันตรง ๆ เลยนะว่า “เชื่อไม่ค่อยได้” หรอก

ข้อปฏิบัติหลังจากซื้อรถมือสอง

สิ่งที่ควรทำหลังจากการซื้อรถมือสองหรือรถเก่ามาใช้ ก็คือ การทำประวัติในการบำรุงรักษาใหม่ทั้งหมด โดยเริ่มตั้งแต่ การนำรถเก่า หรือรถมือสองที่เราซื้อมา ไปเปลี่ยนถ่าย “ของเหลว” ใหม่หมด

“ของเหลว” ที่ว่ามีอะไรบ้างล่ะ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ พร้อมไส้กรอง, เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่ และถ้าเป็นรถเกียร์อัตโนมัติ นอกจากเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์แล้ว ต้องเปลี่ยนไส้กรองของน้ำมันเกียร์ด้วย เพราะเกียร์อัตโนมัติในรถยนต์บางรุ่น จะมีไส้กรองน้ำมันเกียร์มาด้วย

จากนั้นก็เปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้าย ตามด้วยน้ำมันเพาเวอร์และน้ำมันเบรก ซึ่งน้ำมันทั้ง 2 ตัวหลังนี้ ต้องเรียกว่า ไม่ใช่เปลี่ยนน้ำมันอย่างเดียว แต่ถือเป็นการล้างระบบไปด้วย และเพื่อไม่ให้เสียเวลา ก็ตรวจเช็กระบบเบรกไปด้วยเลย เช่น ตรวจความหนาของผ้าเบรกว่าเหลืออีกเยอะหรือไม่? ถ้าเหลือน้อยก็เปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ไปซะเลย สบายใจกว่า! สำหรับรถเกียร์ธรรมดาบางรุ่น ที่ใช้ระบบคลัทซ์น้ำมัน ก็เปลี่ยนถ่ายน้ำมันคลัทช์ไปพร้อม ๆ กัน จะได้ไม่เสียเวลา

มาดูที่หม้อน้ำกันบ้าง โดยลองเปิดฝาหม้อน้ำดูสภาพของน้ำในหม้อน้ำ ว่ามีสนิมปะปนอยู่หรือไม่? ถ้ามีก็ต้องมีการถ่ายน้ำในหม้อน้ำ ส่วนพวกรถที่ใช้น้ำยากันสนิมหรือน้ำยารักษาหม้อน้ำ ก็ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำยารักษาหม้อน้ำด้วย

ที่สำคัญ พวกท่อทางเดินของน้ำหล่อเย็น ที่เป็นท่อยางทั้งหลายแหล่ ทั้งท่อยางน้ำออกและท่อยางน้ำเข้า รวมไปถึงท่อยางน้ำในเครื่องยนต์บางรุ่น ที่มีอยู่ 1 – 3 ท่อรอบ ๆ เครื่องยนต์ ถ้าดูท่าว่าจะเริ่มเปื่อย หรือเริ่มมีแนวโน้นว่า จะปริแตกได้ในช่วงเวลาไม่นานนัก ก็ควรลงทุนเปลี่ยนใหม่ไปเลยดีกว่า เพราะถ้าทิ้งไว้ หากเราขับรถเดินทางไกล แล้วท่อยางพวกนี้เกิดแตกขึ้นมา จะยุ่งยากต่อการเปลี่ยน และมีความเสี่ยงสูงที่เครื่องยนต์จะพัง เพราะหม้อน้ำแห้ง กลับบ้านเก่าไปซะก่อน

เมื่อดูแลเรื่องการเปลี่ยนถ่าย “ของเหลว” กันไปแล้ว ก็มาไล่เปลี่ยนตรงจุดอื่นกันต่อ อย่างรถบางรุ่นพวกข้อต่อของระบบบังคับเลี้ยว หรือพวกลูกหมากในจุดต่าง ๆ ยังมีหัวอัดจาระบีอยู่ ก็ต้องอัดจาระบีเพิ่มตามจุดเหล่านี้ด้วย

นอกจากนั้น ก็ควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศ พร้อมไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซลซึ่งก็มีไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยกันทั้งนั้น มีกี่ตัว กี่จุด ก็จับเปลี่ยนใหม่ให้หมด และเพื่อเป็นการ “SAEFTY FIRST” หรือ ปลอดภัยไว้ก่อน ก็ควรเปลี่ยนสายพานราวลิ้นพร้อมชุดลูกรอก และสายพานหน้าเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด เช่น สายพานปั๊มน้ำ, สายพานแอร์, สายพานไดชาร์จ ฯลฯ

แน่นอนว่าทั้งหมดที่บอกมานี้ ต้องใช้เงินลงทุนและเวลาในการทำให้ครบทุกขั้นตอน ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่รับรองว่า คุ้มค่ากับการเสียเงินและเวลาที่เสียไป เพราะจะสามารถใช้รถมือสองหรือรถเก่าที่ซื้อมานั้นใช้ได้ไปอีกนาน

อ่านข่าวต้นฉบับ:

อมรินทร์ทีวี ทันข่าวได้ที่

เว็บไซต์:www.amarintv.com

เรื่องธุรกิจที่ :ติดตาม SPOTLIGHT มองขาดทุกโอกาสธุรกิจ

2024-05-03T11:06:59Z dg43tfdfdgfd