ภายหลังที่นายแจ๊ค เว่ย ประธานบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor-GWM) ออกมาเปิดประเด็นว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในจีนทำสงครามราคา เพื่อสร้างยอดขาย เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด และมีการใช้วิธีนำรถใหม่ไปขายเป็นรถมือสอง “รถใช้แล้ววิ่ง 0 กิโลเมตร” (zero-kilometre used cars) เพื่อหาช่องทางในการรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการทำลายอุตสาหกรรมยานยนต์จีนในระยะยาว
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในจีน ระบุว่า กำลังการผลิตส่วนเกินยังเป็นปัญหา โดยสต๊อกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน มีจำนวนถึง 3.5 ล้านคันในเดือนเมษายน 2568 ส่งผลให้หลายบริษัทต้องกระหน่ำลดราคา เพื่อระบายสต็อกดังกล่าว
“ตลาดรถพลังงานใหม่ (NEV) จีน มีการแข่งขันที่สูงที่สุดในโลก เมื่อมีผู้ผลิตจำนวนมากเข้าสู่ตลาดในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ราคาขายต่ำ กำไรต่อคันลดลงอย่างมาก”
ผู้ผลิตหลายรายกำลังมุ่งเน้นการไล่ตามมูลค่าหุ้นมากกว่าความมั่นคงทางธุรกิจจริง หลายแบรนด์ยังขาดทุนจากการขาย EV แต่ยังคงเร่งขยายตัวเพื่อรักษาภาพลักษณ์และความสนใจจากนักลงทุน
ล่าสุด บีวายดี รายงานยอดขายรถพลังงานใหม่ 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค. 68) ว่าทำได้ 1,735,643 คัน เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนยอดขายเฉพาะเดือนพฤษภาคม บีวายดี เป็นอันดับหนึ่งทำได้ 376,930 คัน ตามด้วย จีลี่ กรุ๊ป 138,021 คัน และลีปมอเตอร์ 45,067 คัน
ด้านแหล่งข่าวผู้บริหารค่ายจีนรายหนึ่ง เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทไม่มีแผนนำรถใหม่ไปขายเป็นรถมือสอง (zero-kilometre used cars) แต่การที่ตลาดจีน มี Over Supply วิธีการหนึ่งคือต้องหาตลาดส่งออก ซึ่งในปัจจุบันได้พัฒนาเครือข่ายการขายในไทยอย่างต่อเนื่อง และน่าจะมีส่วนในการรองรับรถนำเข้ามาจากบริษัทแม่
“เชื่อว่าสงครามราคายังไม่จบ เพราะหลายแบรนด์ที่ผลิตรถในประเทศ ต้องทำให้ได้ตามเงื่อนไขโครงการ EV 3.0 และ 3.5 ของภาครัฐ ขณะเดียวกันยังต้องนำเข้า EV อีกหลายรุ่นจากจีนมาทำตลาดอีกด้วย” แหล่งข่าวกล่าว
ด้านความเคลื่อนไหวของ เนต้า ออโต้ ประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพคล่องของบริษัทแม่ ที่ติดหนี้ทั้ง ดีลเลอร์ และซัพพลายเออร์ ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารชาวจีนนายซูน เปาหลง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ยืนยันว่า ยังดำเนินธุรกิจในไทยต่อเนื่อง ท่ามกลางการปิดตัวลงของดีลเลอร์หลายราย
ส่วนดีลเลอร์ที่เหลืออยู่ ต่างเปิดแคมเปญ Cut Loss สำหรับ NETA V-II บางรายขายราคาต่ำกว่า 3 แสนบาทแล้ว โดยยืนยันว่าเป็นล็อตสุดท้ายหมดแล้วหมดเลย
นอกจากนี้ ยังมีประเด็น บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เหลือชื่อกรรมการเพียงคนเดียวคือ น.ส.สรินยา ศรีไทย ยิ่งเกิดคำถามว่า รายชื่อผู้บริหารจีนไปอยู่ไหน ส่วนออฟฟิศของบริษัทที่ตึก RSU ย่านพร้อมพงษ์ มีข่าวว่าไม่ต่อสัญญาเช่าหลังจากเดือนมิถุนายนนี้
ขณะเดียวกันวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา พนักงานบริษัทหลายคนทำงานเป็นวันสุดท้าย ซึ่งสัญญาณทุกอย่างชี้ไปที่การวางแผนเลิกกิจการในไทยหรือไม่ ตามข้อสงสัยของลูกค้าเนต้า ที่ไม่ได้รับความชัดเจนจากบริษัทแม่ โดยเฉพาะเรื่องการบริการหลังการขาย ที่หลายโชว์รูม-ศูนย์บริการปิดตัว จนต้องไปหาซ่อมตามอู่นอกแทน ทั้งๆ ที่รถยังอยู่ในระยะรับประกันคุณภาพ
สำหรับข้อมูลงบการเงิน บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ล่าสุด ณ สิ้นปี 2566 บริษัทขาดทุน 1,882 ล้านบาท ขณะที่ทุนจดทะเบียนมีเพียง 210 ล้านบาท
ส่วนสถานการณ์ของบริษัทแม่ที่จีน คาดว่า เนต้ามีหนี้ที่แท้จริงสูงถึง 100,000 ล้านหยวน หรือกว่า 400,000 ล้านบาท สอดคล้องกับยอดขายในจีนลดลงอย่างหนัก เหลือเดือนละ 200-300 คัน
2025-06-07T02:03:53Z