เซลขายรถโหด! ยิงเมียดับคารถก่อนหนีเข้าบ้านคลุมโปง ตร.บุกชาร์จเจอปืน 3 กระบอก

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. จากกรณีตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวเสียชีวิตปริศนาภายในรถเก๋งฮอนด้า เอชอาร์วี สีขาว ที่จอดอยู่หน้าตึกทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น 2 คูหา ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. เบื้องต้นคาดว่าน่าจะถูกคนร้ายฆ่านำมาทิ้งใส่ในรถเพื่ออำพราง เจ้าหน้าที่จึงประสานกำลังเสริม ก่อนปิดล้อมบริเวณบ้านพักหลังหนึ่งในซอยดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะมีคนร้ายหลบซ่อนตัวอยู่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จากการตรวจสอบภายในรถ พบผู้เสียชีวิตที่เบาะคนขับทราบชื่อคือ น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ท้ายทอยซ้ายทะลุขมับขวา 1 นัด ส่วนคนร้ายทราบชื่อคือ นายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ซ่อนตัวอยู่ในอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ปิดล็อกประตูเงียบ ต่อมาตำรวจบุกเข้าไป พบนายมีนาพัฒน์ใช้ผ้าห่มนอนคลุมโปงอยู่บนเตียงนอนห้องนอนชั้น 3 ตรวจค้นภายในบ้านพักพบปืนสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 3 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.เพชรเกษม

มีรายงานว่า นายมีนาพัฒน์ และ น.ส.นันทิชา อยู่กินกันมานาน มีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตเป็นผู้ชาย อายุ 6 ขวบ พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ส่วนลูกอีก 2 คน อายุ 4 ขวบ และ 1 เดือน อาศัยอยู่กับญาตินายมีนาพัฒน์ ซึ่งนายมีนาพัฒน์เป็นพนักงานขายรถยนต์ สำนักงานขายอยู่ย่านเพชรเกษม กทม. ส่วน น.ส.นันทิชา ยังไม่ทราบว่าทำงานอะไร

ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 10.58 น. วันเดียวกัน คาดว่า น.ส.นันทิชา ขับรถยนต์คันดังกล่าวมากับนายมีนาพัฒน์ มีเรื่องทะเลาะกันมาระหว่างทางอยู่ในรถ ยังไม่ทราบว่าสาเหตุอะไร ฝ่ายหญิงขับรถจอดขวางถนนบริเวณหน้าบ้านของผู้ก่อเหตุในลักษณะอยู่กลางถนนทำให้รถสัญจรลำบาก ก่อนจะมีเพื่อนบ้านมาบอกว่าจอดรถขวางถนนรถเข้าออกไม่ได้ ฝ่ายหญิงจึงขับรถไปจอดเลยหน้าบ้านไปเล็กน้อย คาดช่วงเวลานี้ ฝ่ายชายใช้ปืนยิงภรรยา ก่อนลงจากรถเข้าไปในบ้านตัวเอง ซึ่งรถยังติดเครื่องยนต์ไว้และเครื่องยนต์ดับเองช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.

ต่อมาเวลาประมาณ 20.28 น. นายมีนาพัฒน์ออกมาจากบ้านพัก มาเปิดประตูรถข้างคนขับ มีพยานเห็นศพอยู่ในรถ ก่อนนายมีนาพัฒน์จะเดินกลับเข้าบ้าน พยานจึงโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ก่อนบุกเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่เล็งเห็นถึงความไม่ปลอดภัยของลูกชายคนโต ที่คาดว่าอยู่กับพ่อในบ้าน จึงบุกเข้าไปจะช่วยเหลือ สุดท้ายทราบว่าลูกชายคนโตยังอยู่ที่โรงเรียนและเป็นเด็กออทิสติก ตลอดช่วงเย็นที่ผ่านมา ครูก็ติดต่อพ่อแม่เด็กให้มารับลูกไม่ได้ เนื่องจากมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นกับครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังมีข้อสงสัยอีกหลายส่วน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมถึงสอบปากคำพยานและผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดเพื่อดำเนินคดีต่อไป

2025-06-10T00:16:50Z