บิ๊กค่าย MG นั่งนายกสมาคม EV ลั่นไทยต้องเป็นฐานผลิตส่งออกยุโรป

“สุโรจน์ เเสงสนิท” นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย คนใหม่จากค่าย MG ประกาศชัด ไทยต้องเป็นฐานการผลิต EV ส่งออกไปยุโรปแทนจีน เตรียมเสนอรัฐผ่านบอร์ด EV เร่งแก้หนี้ครัวเรือน ผ่อนเกณฑ์ปล่อยสินเชื่อ หวั่นผู้ผลิต 7 รายถอยทัพกลับหากรัฐไม่ส่งเสริมมาตรการซัพพอร์ต หลังประเมินยอดขายไม่ถึงเป้าเหลือแค่ 80,000 คัน

วันที่ 5 กันยายน 2567 นายสุโรจน์ แสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (สมาคมรถ EV) กล่าวว่า เป้าหมายของสมาคมชัดเจนว่าจะต้องเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่งออกไปยุโรปแทนจีน หลังจากที่จีนกำลังสูญเสียฐานต้องเสียตลาดยุโรปไป โดยวิธีการคือภาครัฐจะต้องมีมาตรการสนับสนุน พร้อมทั้งช่วยให้เกิดดีมานด์เกิดขึ้น ด้วยการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และผ่อนเกณฑ์การให้สินเชื่อจากสถาบันการเงิน

จากปัญหาดังกล่าวคาดว่าปี 2567 ยอดขายรถ EV จะพลาดเป้าเหลือเพียง 80,000 คัน จากเป้าที่ตั้งไว้ 100,000 คัน ซึ่งผ่อนมา 8 เดือนมียอดเพียง 50,000 คันเท่านั้น

ทางสมาคมจึงหารือและเสนอคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) เรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่มีมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนอย่างเข้มข้น รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมแผนการลงทุน EV ในประเทศไทยเพื่อการส่งออก

เช่น กำหนดให้นักลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในไทย จะต้องมาในรูปแบบของการร่วมลงทุน โดยมีบริษัทไทย ซัพพลายเชนไทยเป็นผู้ร่วมทุนไม่ต่ำกว่า 30% ตามกฎหมาย รวมถึงการกำหนดให้ใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศให้ได้สูงที่สุด เพราะขณะนี้มีสัดส่วนใช้เพียง 20% เท่านั่น ซึ่งหากทำได้จะไม่ใช่เพียงการตอบโจทย์ในระยะยาว แต่ยังจะช่วยแก้ปัญหาการแข่งขันด้านราคาที่มีค่ายรถบางดัมป์ราคาอยู่ในขณะนี้

นอกจากนี้ยังขอให้รัฐบาลพิจารณาการขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) เพื่อดึงดูดให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ ซึ่งเป็นการผลิตต้นน้ำที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยผู้ลงทุนจะขอรับสิทธิประโยชน์และเงินสนับสนุนจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศภายใต้บีโอไอ ที่กำหนดเวลายื่นข้อเสนอโครงการลงทุนภายในปี 2570 ออกไปอีก 2 ปี รวมไปถึงแผนส่งเสริมการผลิตเพื่อส่งออกรถ EV

อย่างไรก็ตาม หากหากรัฐบาลไม่สามารถพิจารณา หรือออกมาตรการส่งเสริมรถ EV เพื่อการส่งออกได้ หรือแม้แต่การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน การผ่อนเกณฑ์แบงค์ปล่อยกู้ ให้ทันภายในปี 2567 นี้ มีแนวโน้มว่า ผู้ผลิตทั้ง 7 ราย ที่เข้ามาตั้งฐานในไทย และขณะนี้เริ่มผลิตชดเชยจากที่นำเข้าสำเร็จรูปเข้ามา ตามมาตรการ EV 3.0 และ EV 3.5 อาจจะถอนการลงทุน เนื่องจากผลิตแล้วขายไม่ได้ ยอมที่จะถูกปรับเนื่องด้วยผิดเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งก็ดีกว่าไม่สามารถทำตลาดได้เลย

“หน้าที่และภารกิจสำคัญที่เราต้องการพุ่งเป้า หลังจากที่ได้รับตำแหน่งมานี้ คือการโฟกัสที่การพัฒนาและผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ในห่วงโซ่อุปทาน เป็นภารกิจและพันธกิจสำคัญที่อยากเห็นอนาคตที่ไทยจะกลายเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นเทคโนโลยีเเห่งอนาคต นำมาสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับแรงงานไทย และพร้อมต่อยอดทักษะบุคลากรในประเทศให้มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญในด้านการผลิต การพัฒนา และการซ่อมบำรุงยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านการเป็นพันธมิตรกับองค์กรภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยยังมีพื้นที่การเติบโตไปได้ไกลอีกมาก หากได้รับการสนับสนุน ส่งเสริม และผลักดัน จากทุก ๆ ภาคส่วน และทางสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย พร้อมเป็นองค์กรในการประสานความร่วมมือในด้านต่าง ๆ กับองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมในประเทศอย่างยั่งยืน และต่อยอดสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ที่เเข็งแรง”

ทั้งนี้ นายสุโรจน์ เเสงสนิท ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด หรือ MG มีประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมาอย่างยาวนานและเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทยตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งในด้านผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และกับผู้บริโภค

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : บิ๊กค่าย MG นั่งนายกสมาคม EV ลั่นไทยต้องเป็นฐานผลิตส่งออกยุโรป

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

– Website : https://www.prachachat.net

2024-09-05T11:50:12Z dg43tfdfdgfd