คาดรถยนต์ไฟฟ้าปีนี้โตพรวด 300 เปอร์เซ็นต์ อานิสงส์เอฟทีเอ ‘อีวี’ จากจีนพาเหรดเข้าไทย

คาดรถยนต์ไฟฟ้าปีนี้โตพรวด 300 เปอร์เซ็นต์ อานิสงส์เอฟทีเอ ‘อีวี’ จากจีนพาเหรดเข้าไทย

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ที่เมืองทองธานี สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย จัดกิจกรรม TAIA Meets the Press หัวข้อ ทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปี 2566 นายสุวัชร์ ศุภกาญจน์เดชากุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (TAIA) เปิดเผยว่า ในปี 2565 ประเทศไทยผลิตรถยนต์เป็นอันดับ 10 ของโลก จำนวน 1.88 ล้านคัน เติบโต 12% เมื่อเทียบกับ 2564 โดยไทยเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของเอาเซียน ในจำนวนนี้เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 8.5 แสนคัน เพื่อส่งออก 1.04 ล้านคัน ส่วนจักรยานยนต์ ยอดผลิตรวม 2.02 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 13.21% ในจำนวนนี้เป็นการผลิตเพื่อส่งออก 4.2 แสนคัน ลดลง 3.01% จากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์

นายสุวัชร์ กล่าวว่า ทางสมาคมฯคาดการณ์ยอดการผลิตยานยนต์ในประเทศไทย ปี 2566 อยู่ที่ 1.95 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 3.5 เปอร์เซ็นต์ แบ่งเป็นผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 9 แสนคัน ส่งออก 1.05 ล้านคัน ส่วนนรถจักรยานยนต์คาดว่าผลิตได้ 2.1 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 4.2 เปอร์เซ็นต์ แบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศ 1.75 ล้านคัน ส่งออก 3.5 แสนคัน ปัจจัยสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2566 จากสถานการณ์เศรษฐกิจดีขึ้นหลังจากโควิดคลี่คลาย ผู้บริโภคมีรายได้สูงขึ้น อัตราการว่างงานต่ำลง การท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มที่ การลงทุนและการบริโภคภายในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง อุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่อง ธุรกิจขนส่งพัสดุเติบโตต่อเนื่อง

นายสุวัชร์ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงคงเป็นเรื่องนราคาพลังงานในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวลงอย่างช้าๆ แต่ยังอยู่ในระดับสูง ความไม่แน่นอนทางการเมืองคาดการณ์ว่าหลังเลือกตั้งจะมีรัฐบาลใหม่ประมาณเดือนสิงหาคม 2566 จากสถิติพบว่าสัดส่วนการเกจ่ายงบประมาณไตรมาสแรกของปีงบประมาณค่อนข้างต่ำในปีที่มีการเลือกตั้งใหม่ ส่งผลต่อการบริโภคของภาครัฐ ความต่อเนื่องของนโยบายต่างๆโดยเฉพาะโครงการเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น แพคเกจ อีวี 3.5 , แพคเกจส่งเสริมการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งการชะลอการลงทุนภาคเอกชน เพื่อรอดูความชัดเจนด้านนโยบายและทิศทางของรัฐบาลใหม่ รวมทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2566 มีแนวโน้มชะลอตัวภายใต้นโยบายการเงินที่เข้มงวดและความไม่สงบในภูมิภาค

นายสุวัชร์ กล่าวว่า ส่วนอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า จากมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ แพคเกจ อีวี 3 ของรัฐบาล ในระยะเวลาโครงการ ปี 2565-2569 ให้สิทธิประโยชน์ เป็นเงินอุดหนุน 7 หมื่น – 1.5 แสนบาท ปรับลดภาษีสรรพสามิตและภาษีนำเข้า กำหนดการผลิตชดเชยการนำเข้ารถไฟฟ้า ยกเว้นอากรชิ้นส่วนสำคัญ 9 รายการที่ใช้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับเงินอุดหนุน ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยมีรถยนต์ไฟฟ้า 8 ยี่ห้อ 9 บริษัทผู้จำหน่าย มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า ปี 2565 มีจำนวน 9,614 คัน และในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566 มียอดจดทะเบียนแล้ว 8,362 คัน คาดว่าปี 2566 จะมีรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนกว่า 3.5-4 หมื่นคัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 300%

นายสุวัชร์ กล่าวว่า คาดว่าจากการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างจีนกับไทย ทำให้ไม่มีภาษีนำเข้า เชื่อว่าปีนี้จะมีรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนจำนวนมากเข้ามาประเทศไทยจำนวนมาก ส่วนระบบการชาร์จไฟ ขณะนี้กำลังมีการเร่งขยายสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จากปัจจุบันมีประมาณ 3 พันกว่าหัวจ่าย เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรรถยนต์ไฟฟ้ามีประมาณ 2 หมื่นกว่าคัน ถือว่าเพียงพอ แต่ในนอนาคตจะต้องดูว่านโยบายรัฐบาลชุดใหม่จะมีการส่งเสริมการผลิตแบตเตอรี่อย่างไร หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลเน้นสนับสนุนผู้ผลิตแบตตเตอรี่รายใหญ่ แต่สิ่งสำคัญต้องระวังคือวัตถุดิบใช้ผลิตแบตเตอรี่จะขาดแคลนหรือไม่

2023-03-30T10:06:53Z dg43tfdfdgfd