สวัสดีวันสงกรานต์! อ้วนซ่า แอบซิ่ง ขออวยพรให้ทุกท่านชุ่มฉ่ำ สดชื่นหัวใจ คลายร้อน กันถ้วนหน้า และขอให้เดินทางกันด้วยความปลอดภัยตลอดวันหยุดยาวในมหาสงกรานต์ปี 2568 นี้นะขอรับ แม้ว่าการเจรจาควบรวมกิจการของนิสสันกับค่ายฮอนด้า ในรอบแรกจะประสบความล้มเหลว แต่คงจะไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะละความพยายาม เพราะในปัจจุบันเขาได้ทำการเปลี่ยนตัวซีอีโอบริษัทคนใหม่เรียบร้อย ตามที่ทางฮอนด้าร้องขอ โดยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา นิสสัน มอเตอร์ ได้เปลี่ยนตัว “นายมาโกโตะ อุชิดะ” (Makoto Uchida) ซึ่งในเป็นซีอีโอชาวญี่ปุ่นออก และได้แทนที่ด้วย “นายอีวาน เอสปิโนซ่า” (Ivan Espinosa) ชาวเม็กซิกัน ผู้อยู่กับนิสสันมากว่า 20 ปี โดยตำแหน่งก่อนจะมาเป็นซีอีโอ เขาคือประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการวางแผนผลิตภัณฑ์ ทางอ้วนซ่า ขอเป็นกำลังใจให้นำเรือลำใหญ่ที่ชื่อว่า “นิสสัน” ผ่านวิกฤตินี้ไปได้ด้วยดีนะขอรับ
โดยหนึ่งในรถใหม่ที่จ่อคิวจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ ก็คือ รถที่เรารอคอยการเปลี่ยนแปลงมานานนับทศวรรษแล้ว นั่นก็คือ นิสสัน มาร์ช (Nissan March) ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาด นิสสัน มาร์ช ก็จะเปิดตัวในยุโรปก่อน ภายในปี 2025 นี้ โดยจะมาในเวอร์ชั่น รถไฟฟ้า เต็มรูปแบบ (EV) ซึ่งจะเป็นก้าวที่สำคัญมากสำหรับมาร์ช
โดยมาร์ช รุ่นใหม่นี้จะเป็นรถที่แชร์แพลตฟอร์ม AmpR Small ร่วมกับรถยนต์ เรโนลต์ รุ่น 5อี-เทค (Renault 5E-Tech) โดยมาร์ช จะผลิตขึ้นที่โรงงานของเรโนลต์ในฝรั่งเศส โดยการวางตำแหน่งทางการตลาดนั้นจะอยู่ต่ำกว่า รถรุ่น จู๊ค และ ลีฟ (Juke & Leaf) โดยจากการคาดการณ์เบื้องต้น มาร์ช จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 2 ขนาดด้วยกันคือ ขนาด 40 และ 52 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งจะรองรับระยะทางสูงสุด 400 กิโลเมตร ต่อชาร์จ ตามมาตรฐาน WLTP
โดยจากโหงวเฮ้ง ที่ทางนิสสันได้เผยออกมาก็ต้องบอกว่า นิสสัน มาร์ช อีวี นี้มีรูปลักษณ์ที่สอบผ่าน ดูทันสมัย โดยเฉพาะการรักษาไว้ซึ่งภาพลักษณ์ไฟหน้าดวงกลมโต ซึ่งถูกแทนที่ด้วยไฟเดย์ไทม์ทรงครึ่งวงกลมสองวง ให้ความรู้สึกที่เฉียบคม ส่วนรูปลักษณ์ของตัวถังก็คมเฉียบ และดูมีราคากว่ารุ่นที่เรารู้จักมาก ใครคาดหวังรถราคาย่อมเยา ก็คงต้องลุ้น แต่อ้วนซ่าเชื่อว่า การแชร์ชิ้นส่วนสำคัญร่วมกับรถหลายๆรุ่น จะทำให้ราคาของ มาร์ช อีวี เป็นมิตรและแข่งขันได้
แต่ถึงอย่างไรก็ตามใครที่ยังไม่กล้าเข้าสู่โลกของรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ นิสสันก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแนวคิด e-power ที่เป็นระบบไฮบริดอยู่เช่นเดิม โดยพวกเขาจะเปิดตัวระบบ e-power เจนเนอเรชั่น 3 ที่เพิ่มความประหยัดเชื้อเพลิงจากรุ่นเดิมไปอีก 15% เมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง โดยเครื่องยนต์ที่ใช้จะเป็นขนาด 1.5 ลิตรที่พัฒนาขึ้นสำหรับระบบ e-power โดยเฉพาะ โดยจะออกแบบให้ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนลง เพื่อความนุ่มนวลในการขับขี่ ทำงานร่วมกับ ระบบควบคุมไฟฟ้าแบบ 5 in 1 ซึ่งจะเป็นการรวบเอาเกี่ยวกับไฟฟ้าต่างๆ 5 ระบบมารวบให้อยู่ในหน่วยเดียว และแน่นอนว่าเครื่องยนต์จะทำหน้าที่เพียงการปั่นไฟ ส่วนการขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งระบบ e-power เจนเนอเรชั่น 3 จะเริ่มใช้กับรถนิสสันที่ใช้ในยุโรป แล้วค่อยลงไปสู่ภูมิภาคอื่นในเวลาต่อไป
ส่วนพระเอกอีกรุ่นที่จ่อจะเปิดตัวในเวลาไม่นานนี้ก็เห็นจะเป็น รถกระบะ นาวาร่า ใหม่ ที่พัฒนาร่วมกับทางมิตซูบิชิ ในฐานะ ผลิตภัณฑ์จากความร่วมมือของ 3 บริษัทคือ เรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ แต่ก็จะแตกต่างจากไทรทัน มากกว่าเพียงภาพลักษณ์ภายนอก และไม่ได้เป็นไทรทันที่เปลี่ยนป้ายอย่างแน่นอน โดยเชื่อได้ว่าอาจจะมีตัวเลือกขุมกำลังใหม่ๆอย่าง ปลั้ก-อินไฮบริด หรือไฟฟ้าล้วนมาให้เลือก รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง
แต่ถึงอย่างไรก็ตามในยุคแห่งความปั่นป่วนที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้สร้างขึ้นแผนการณ์ใดๆก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นิสสันสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ชนะใจคนไทยได้ในที่สุดนะขอรับ!
2025-04-12T01:48:31Z